ผลไม้ช่วงหน้าฝนที่ควรทาน

7 ผลไม้หน้าฝน มีอะไรบ้าง บอกเลยอร่อยและประโยชน์เพียบ!

Last Updated on 05/10/2023 by wuttikrai

ผลไม้ช่วงหน้าฝนมีอะไรบ้าง?

เป็นหวัดหรือไม่สบายจากการโดนฝนไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ฉะนั้นการกินผลไม้ตามฤดู(ฝน)จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี เพราะมีทั้งวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ ใยอาหารสูง และอีกมากมาย

รายชื่อผลไม้ที่ควรทานช่วงฤดูฝน

เงาะส้มเกลี้ยง
กระท้อนน้อยหน่า
มังคุดลำไย
สัปปะรสลางสาด
ระกำแตงไทย
ขนุนฝรั่ง
ทุเรียนฝักบัว
กล้วยหอมมะม่วง
กล้วยน้ำหว้ามะละกอ
กล้วยหักมุกมะเฟือง
กล้วยไข่มะยม
ส้มเขียวหวานอ้อย
ส้มโอ

ผลไม้ฤดูผล infographic

[ขอบคุณภาพจากกรมอนามัย]

1. มะม่วง (Mango)

มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ทั้งแบบสุกและดิบ เพราะมี…

  • วิตามิน A และ C
  • มีแคลเซียม เหล็ก ที่ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร
  • แก้กระหายน้ำ
  • บำรุงกระดูกและฟัน
  • ขับปัสสาวะ
  • และอีกมากมาย

ที่สำคัญ! มะม่วงต้องกินกับน้ำปลาหวาน แม่ต้อย เพราะเป็นของคู่กันตั้งแต่ชาติปางก่อน แต่อย่าลืมน้ำปลาหวานให้แคลอรี่สูง ต้องทานให้พอดีถึงจะให้ประโยชน์มากกว่าโทษ

ข้อควรระวัง : ผู้ป่วยโรคไต ไม่ควรทานในปริมาณที่มากเกินไป เพราะทำให้อาการกำเริบกว่าเดิมได้


2. เงาะ (Rambutan)

เงาะมีความนิยมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย มักจะรับประทานเป็นผลไม้สดหรือนำมาใช้ในการทำน้ำผลไม้ มีประโยชน์ในด้านโภชนาการและสุขภาพ เช่น มีวิตามินซีและวิตามินเอสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเสมหะ และมีสารสำคัญอื่นๆ เช่น โฟเลต แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายด้าน

ประโยชน์ของเงาะ :

  • วิตามิน โปรตีน แคลเซียม น้ำตาล
  • ช่วยป้องกันอาการท้องร่วง ท้องอืด
  • บรรเทาอาการเจ็บคอ ลดอาการปวดหัว
  • ผู้ป่วยเบาหวานสามารถทานได้ แต่ไม่ควรทานในปริมาณที่มากเกินไป

ข้อควรระวัง : ไม่ควรทานเม็ดของเงาะ เพราะมีพิษ อาจทำให้ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียนได้


3. กระท้อน (Santol)

กระท้อนจะมีเม็ดเล็กๆ สีแดงอมชมพู และมีเนื้อสีแดงอมชมพูเข้มอุดมไปด้วยน้ำเปล่า แต่ละเม็ดจะมีเมล็ดเล็กๆ อยู่ภายในแยกจากกันด้วยกลีบเล็กๆ ที่ไม่สามารถรับประทานได้

กระท้อนมีรสชาติเปรี้ยวหวานอมเปรี้ยวพิเศษ และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่นิยมใช้ในอาหารและเครื่องดื่ม

ประโยชน์ของกระท้อน :

  • เต็มไปด้วยวิตามิน A, C และ B1
  • ช่วยลดอาการเจ็บคอ
  • ลดความเสี่ยงจากมะเร็ง
  • บำรุงเลือด
  • แก้อาการจุกเสียด ท้องผูก
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

4. มังคุด (Mangosteen)

เป็นถึงราชินีแห่งผลไม้ย่อมมีสรรพคุณดีๆ ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น เพราะมีเส้นใยอาหาร ให้พลังงานต่ำ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แคลเซียม ตามิน B 1, B 2 และ C และอื่นๆ

มังคุดมีลักษณะเป็นผลกลมเล็กๆ มีเปลือกหนาที่สีม่วงเข้ม ภายในมีเนื้อสีขาวมีรสหวานจัดและรสเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์ เมื่อกัดเนื้อมังคุดจะมีรสชาติหวานอ่อน กลมกล่อม และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ

มังคุดมีความนิยมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย มักจะรับประทานเป็นผลไม้สดหรือนำมาใช้ในการทำน้ำผลไม้

ประโยชน์ของมังคุด :

  • ช่วยยับยั้งการแพร่เชื้อของแบคทีเรีย
  • แก้ท้องเสีย ท้องร่วง
  • สมานแผลให้หายเร็วขึ้น
  • รักษาน้ำกัดเท้า โดยการนำเปลือกสดหรือเปลือกแห้ง นำไปฝนกินหรือต้มกับน้ำ

5. ชมพู่ (Rose Apple)

ชมพู่เป็นผลไม้ที่มีลักษณะเป็นกลีบดอกและมีลักษณะคล้ายกับมะเฟือง มีรสชาติหวานเปรี้ยวสดใส ชมพู่สามารถรับประทานเป็นผลไม้สดหรือนำมาทำน้ำผลไม้ได้ มีวิตามินซี วิตามินเอ และเส้นใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร

ประโยชน์ของชมพู่ :

  • ช่วยบำรุงร่างกายและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเสมหะ
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคเส้นเลือดในร่างกาย
  • บำรุงระบบทางเดินอาหาร
  • ช่วยย่อยสลายอาหารและส่งเสริมการทำงานของลำไส้ใหญ่ ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้น

6. ส้มโอ (Pomelo)

ส้มโอเป็นผลไม้ที่ออกผลในช่วงฤดูฝน มีเนื้อน้ำและรสชาติหวานสดใส ส้มโอมักจะรับประทานสดหรือนำมาทำน้ำผลไม้

ส้มโอมีความนิยมในภูมิภาคเอเชียและบางส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มักจะรับประทานเป็นผลไม้สดหรือนำมาใช้ในการทำเครื่องดื่มและอาหารต่างๆ

ประโยชน์ของส้มโอ :

  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากสารอนุมูลอิสระในร่างกาย
  • มีปริมาณวิตามินซีสูงที่ช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวพรรณและเล็บแข็งแรง
  • ช่วยย่อยสลายอาหารและส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเช่น ท้องผูก
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารสัมผัสที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการเกิดอันตรายจากเชื้อโรค
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและช่วยลดความดันโลหิต
  • ลดอาการอักเสบในกระเพาะปัสสาวะ และลดความรุนแรงของโรคไต

7. ลำไย (Longan)

ลำไยเป็นผลไม้ที่เจริญเติบโตในฤดูฝน มีเนื้อหวานเค็มและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ลำไยสามารถรับประทานสดหรือนำมาทำน้ำผลไม้ได้

ประโยชน์ของลำไย :

  • เป็นแหล่งของวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการต่อต้านอันตรายจากสารอนุมูลอิสระในร่างกาย
  • มีใยอาหารที่ช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร และส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการส่งเสริมสุขภาพสมอง และการทำงานของระบบประสาท
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผม ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์

 

นี่ก็เป็นเพียงแค่ 7 ตัวอย่าง ผลไม้ช่วงฤดูผลที่เราควรทาน เพราะฝนจะทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอ ฉะนั้นเราจึงต้องเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงผ่านผลไม้เหล่านี้

 

ข้อมูลอ้างอิง :
อ้างอิง
Krua
กรมอนามัย

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *