มะม่วง 4 ลูก บนใบตอง

10 ประโยชน์ & โทษ “มะม่วง” สุก&ดิบ ผลไม้ดีๆ กินได้ทั้งปี

พอเข้าหน้าร้อน “มะม่วง” กลายเป็นผลไม้ยอดฮิตของคนไทย ไม่ว่าจะเอามาทำเมนู “มะม่วงน้ำปลาหวานยำมะม่วง” หรือ “ข้าวเหนียวมะม่วง” ที่ไม่ว่าจะทานที่ไหนก็อร่อย เพราะมีวิธีทำง่ายและทานได้(เกือบ)ทุกวัย

ประโยชน์ของมะม่วงสุก

วิธีทำให้มะม่วงสุกจากแม่บ้าน

(อ่าน : วิธีทำให้มะม่วงสุกจากแม่บ้าน)

มะม่วงสุกจะมีผลสีเหลืองสวยงาม เนื้อนุ่ม เปรี้ยวปานกลางถึงมาก แต่เชื่อหรือไม่ว่า มะม่วงสุกจะมีประโยชน์สำหรับร่างกายของเรามากทีเดียว เราขอสรุปง่ายๆ ดังนี้

  • บำรุงสายตา (ให้มองในเวลากลางคืนชัดขึ้น)
  • ช่วยในการขับถ่าย (จากกากใยอาหาร)
  • มีวิตามิน เอ
  • มีเบต้าแคโรทีน มีคุณสมบัติ : 
    • ดูแลผิวจากแสงแดดแรง
    • ป้องกันมะเร็งเต้านม และ มะเร็งกระเพาะอาหาร
    • ป้องกันโรคหัวใจ
    • ป้องกันประสาทตาเสื่อม
    • ส่งเสริมในเรื่องความจำ

อ่านข้อมูลเบต้าแคโรทีนเพิ่มเติม : มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

ประโยชน์ของมะม่วงดิบ

ภาพมะม่วงจากแสงดำรง

[ขอบคุณภาพมะม่วงจากแสงดำรง]

มะม่วงดิบเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบความกรุบกรอบ หวานมัน เปรี้ยว/ไม่เปรี้ยว (แล้วแต่พันธุ์) ซึ่งประโยชน์ที่คนกินจะได้รับมีความแตกต่างจากมะม่วงดิบ มีสรรพคุณดังนี้

  • มีวิตามิน ซี
  • ช่วยกระชับผิวพรรณ
  • ป้องกันหวัด
  • ลดเลือดออกตามไรฟัน
  • แก้ร้อนใน
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในเรื่อง…
    • ลดความชะลา
    • ลดความเสี่ยงของอัลไซเมอร์
    • ป้องกันความเสี่ยงโรคหัวใจ
    • ป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

(อ่านข้อมูลสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มเติม : โรงพยาบาลเปาโล)

ระดับความสุก ดิบ มะม่วง

[ขอบคุณภาพจาก : kasetgo]

ข้อเสียของมะม่วงสุก-ดิบ

ข้อเสียมะม่วงดิบ

การบริโภคมะม่วงดิบไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัยและมีข้อควรระวัง แต่ควรระมัดระวังในด้านบางประการ ดังนี้:

    1. การเกิดการแพ้: บางคนอาจมีการแพ้ต่อสารที่อยู่ในมะม่วงดิบ เช่น สารเคมีหรือสารที่ใช้ในการบริหารจัดการแมลงหรือโรคต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการแพ้แบบเร่งด่วนหรืออาการแพ้ทางเดินอาหารได้
    2. การทำลายเซลล์: มะม่วงดิบมีสารฟิตอไซน์ (Phytochemicals) ซึ่งอาจมีส่วนในการทำลายเซลล์หรือเปลี่ยนแปลงเซลล์บางประการ อย่างไรก็ตาม การบริโภคมะม่วงดิบในปริมาณที่เหมาะสมและควบคู่กับอาหารสุขภาพอื่นๆ อาจช่วยในการป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง แต่การบริโภคในปริมาณมากๆ อาจทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์
    3. ปัญหาทางเดินอาหาร: มะม่วงดิบอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียหรือระคายเคือง โดยเฉพาะเมื่อมะม่วงไม่สดหรือไม่สะอาด มีเชื้อโรคหรือสารพิษที่ปนเปื้อนอยู่ในผล หรืออาจทำให้ท้องอืด หากทานเยอะเกินไป (ควรทาน 1 ลูกเล็ก หรือ ครึ่งลูกใหญ่)
    4. การย่อยสลายของน้ำตาล: มะม่วงดิบมีปริมาณน้ำตาลธรรมชาติสูง การบริโภคมะม่วงดิบในปริมาณมากอาจทำให้ระดับน้ำ

ข้อเสียมะม่วงสุก

มะม่วงสุกเป็นผลไม้ที่เป็นที่นิยมในหลายๆ ท้องถิ่น เนื่องจากมีรสชาติหวานอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อย่างไรก็ตาม มะม่วงสุกมีบางคนที่อาจมีปัญหาหรือแพ้ต่อการบริโภค หรือมีผลข้างเคียงบางอย่าง ดังนี้:

  1. การเกิดแพ้และอาการแพ้: บางคนอาจมีการแพ้ต่อรสหรือส่วนประกอบของมะม่วงสุก เช่น การแพ้แมลงวันทอง หรือการแพ้สารเคมีที่ใช้ในการใส่ปุ๋ยหรือฮอร์โมนเพื่อส่งผลให้มะม่วงสุกไว้
  2. ปัญหาทางเดินอาหาร: บางครั้งมะม่วงสุกสามารถทำให้เกิดอาการไม่สบายในทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสียหรือระคายเคือง เนื่องจากมีสารพิษหรือสารเคมีบางชนิดที่อาจตกค้างในผลมะม่วง
  3. การเพิ่มน้ำตาลในเลือด: มะม่วงสุกมีปริมาณน้ำตาลสูง ดังนั้น การบริโภคมะม่วงสุกในปริมาณมากอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคนที่เป็นเบาหวานหรือมีปัญหาเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือด
  4. ปัญหาความอ้วน: มะม่วงสุกมีปริมาณแคลอรี่สูง หากบริโภคมะม่วงสุกในปริมาณมากๆ อาจทำให้เกิดการสะสมของไขมันในร่างกายและเพิ่มความอ้วนได้
  5. ปัญหาการย่อยสลาย: บางคนอาจมีปัญหาในการย่อยสลายสารอาหารที่มีอยู่ในมะม่วงสุก เนื่องจากมีใยอาหารหรือสารอาหารที่ยากต่อการย่อยสลาย อาจเกิดอาการท้องอืดหรือท้องผูกได้

สำหรับบุคคลที่ไม่มีปัญหาหรือแพ้ต่อมะม่วงสุก การบริโภคมะม่วงสุกในปริมาณที่เหมาะสมจะเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มสารอาหารที่มีประโยชน์เช่นวิตามินและเส้นใยในระบบอาหารของร่างกาย

ข้อมูลอ้างอิง :
กรมอนามัย
helloคุณหมอ
trueid

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *